ประวัตินักฟุตบอลชื่อดัง ของ Gerrard กัปตันสัญลักษณ์หงสืแดงผู้ไม่เคยยอมแพ้!
ส่องเส้นทางอาชีพของกัปตันหัวขิงแห่งแอนฟิลด์ สตีเวน เจอร์ราร์ด ผู้เป็นทุกอย่างของทีมลิเวอร์พลูตลอดกาล
กัปตันผู้เป็น “เดอะแบก” แห่งแอนฟิลด์
เจอร์ราร์ด มากกว่าแค่กัปตัน แต่คือจิตวิญญาณแห่งแอนฟิลด์
ถ้าพูดถึง ประวัตินักฟุตบอลชื่อดัง ที่มีอิทธิพลต่อสโมสรมากที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก ชื่อของหัวขิงมิดฟิลด์ไดนาโมเด็กปั้นแห่งแอนฟิลด์ สตีเวน เจอร์ราร์ด ต้องขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ! เด็กหนุ่มจากฮายตันผู้เล่นฟุตบอลและเติมโตมาด้วยลมหายใจของลิเวอร์พูล! การเริ่มต้นอาชีพจากอะคาเดมีของสโมสรตั้งแต่อายุ 9 ขวบคือจุดเริ่มต้นของการขายวิญญาณให้กับสโมสร และช่วงเวลานั้นมหากาพย์ความตื่นตาที่ครบรส ทั้งหยาดเหงื่อและน้ำตา! ที่เขาสร้างขึ้นให้กับแฟนบอล และนี่คือเรื่องราวของเขา Steven Gerrard
ยุคสร้างตัว: จากเด็กใหม่สู่กัปตันผู้ยิ่งใหญ่โลไม่ลืม
เจอร์ราร์ด ตำนานนักเตะ ประเดิมสนามในวัย 18 ปี และไม่นานเขาก็พิสูจน์ให้โลกเห็นว่า นี่ไม่ใช่แค่นักเตะหนุ่มตัวสำรองที่ลงมาแค่เพื่อรอให้หมดเวลา แต่เขาคือมิดฟิลด์สไตล์ Box-to-Box ที่วิ่งไม่มีหมด พร้อมปะทะทุกจังหวะ หนักหน่วง แข็งแกร่ง พร้อมชน ราวรถรถพ่วง แถมมากับวิสัยทัศน์ในการจ่ายบอลที่เรียกได้เต็มปากว่า “เวิร์ดคลาส” และลูกยิงไกลที่รุนแรงราวกับปืนใหญ่! มีโอกาสเป็นประตูได้ทุกการง้างเท้า
ทั้งการสร้างสรรเกม ประตู ความเป็นผู้นำที่เขาสร้างมาตลอดการได้เริ่มต้นนักเตะอาชีพให้กับเครื่องจักรสีแดง ทำให้ปี 2003 เขาได้รับปลอกแขนกัปตันทีม นี่คือการรับช่วงต่อ จิตวิญญาณของสโมสรอย่างแท้จริง และเป็นจุดสูงสุดของเด็กจากอคาเดมี่ลิเวอร์พลูถวิลหา ผู้นำอย่างเจอร์ราร์ด คือแรงกระตุ้นที่ส่งเสียงดังไปทั่วทั้งสนาม ไม่มีคำว่า “ยอมแพ้” อยู่ในพจนานุกรมของเขา! แถมยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ขับเคลื่อนล่าชัยชนะได้อีกด้วย
2005: อิสตันบูล – ปาฏิหาริย์ที่ถูกจารึก!
กับค่ำคืนที่ไม่มีใครลืมได้ลง นี่คือช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของบรรดาเดอะค็อป และในประวัตินักฟุตบอลชื่อดังคนนี้! นัดชิง UCL ที่ตามหลังมิลานอยู่ 3-0 ในครึ่งแรก… เกมมันตายไปแล้ว! ถ้วยครึ่งใบอยู่ในมือของมิลานไปแล้วด้วยซ้ำ แต่กัปตันหมายเลข 8 คนนี้คือผู้ไม่ยอมแพ้! ประตูโหม่งเปิดซิงตีไข่แตกของเขา คือประกายไฟที่จุดชนวนให้ลิเวอร์พูลได้กลับมาตีเสมอให้ท้ายที่สุด และนำไปสู่การพลิกนรกที่เป็นประวัติศาสตรของถ้วยหูใหญ่ ที่คนดูบอลทุกคนต้องรู้จัก
เขาแบกทีม! เขาปลุกเร้าเพื่อนร่วมทีม! การกลับมาเสมอ 3-3 และคว้าแชมป์ยุโรปในที่สุด นี่คือผลงานชิ้นเอกที่ไม่มีใครเทียบได้! เจอร์ราร์ดพิสูจน์ตัวเองในคืนนั้นว่า เขาสมควรเป็นตำนานของสโมสรและของโลกฟุตบอล! อย่างไร้ข้อกังขาโดยสิ้นเชิง
2006: เอฟเอ คัพ Final – นัดชิง “เจอร์ราร์ด”
ถ้าอิสตันบูลคือจุดสูงสุดของยุโรป นัดชิง FA Cup กับเวสต์แฮมในปี 2006 ก็คือการโชว์ศักยภาพในความเป็นทุกอย่างของทีมอย่างแท้จริง เดอะแบกของลิเวอร์พูลที่พร้อมสรรสร้างให้ทุกอย่าง ตอนนั้นตามหลังอยู่ 3-2 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ… และใครคือคนยิงตีเสมอ? นึกไม่ยากเลยว่าคือ เจอร์ราร์ด คนเดียวเท่านั้น! ลูกยิงไกลระยะ 35 หลาที่พุ่งเสียบเสาเข้าไปอย่างรุนแรง! มันคือ “ลูกยิงผีจับยัด”” ที่สั่งการให้เขาต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อกอบกู้ทีม! สู่การชูถ้วย แฟนบอลเรียกเกมนี้ว่า “The Gerrard Final” จากฟอร์มของเขาคือพระเอกของเรื่องอย่างแท้จริง
ความภักดีที่ไม่เคยมองหาที่อื่น
แม้ว่าเขาจะถูกยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างเรอัล มาดริด หรือเชลซี ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อดึงตัวไป แต่เจอร์ราร์ดเลือกที่จะอยู่ต่อ! แม้ทีมจะอยู่ในช่วงที่แฟนบอลตั้งคำถามว่าดีพอสำหรับเขาหรือไม่ เขาดีกว่าสภาพทีมในตอนนั้น แต่เขาเลือกที่จะสวมเสื้อสีแดงเพลิงต่อไป แม้ทีมจะไม่ได้แชมป์ลีกมานานแค่ไหนก็ตาม ความภักดีนี้เองที่ทำให้เขาไม่เป็นเพียง ประวัตินักฟุตบอลชื่อดัง แต่เป็นสัญลักษณ์ที่หาใครเทียบได้ยากในยุคฟุตบอลสมัยใหม่ที่ทุนนิยมนำทางมากกว่าเรื่องฟุตบอล
บทสรุป: ไม่ได้แชมป์ลีก… แต่ได้ใจแฟนบอลตลอดกาล
หลายคนอาจมองว่าการที่เจอร์ราร์ดไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกคือจุดด่างพร้อยในอาชีพ แต่สำหรับเหล่าเดอะค็อปมันคือโชคชะตา! เขาทำหน้าที่ของเขาได้ดีที่สุดแล้ว การพลาดแชมป์ในปี 2014 แน่นอนว่ามันคือช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุด แต่บางครั้งความยิ่งใหญ่ของคนเราก็ไม่ได้วัดแค่จากถ้วยแชมป์เพียงอย่างเดียว! คุณว่ามั้ย!
สตีวี่จี คือความหมายของคำว่า “ผู้นำ” ในสนามอย่างครบเครื่องที่สุด การเล่า ประวัตินักฟุตบอลชื่อดังคนนี้ จึงไม่ใช่แค่การเล่าเรื่องฟุตบอล แต่คือการเล่าเรื่องของ ความจงรักภักดี และจิตวิญญาณนักสู้ ที่จะถูกจดจำไปตลอดกาล “You’ll Never Walk Alone” จึงเหมาะสมที่สุดทุกวลีบทเพลงที่สื่อถึงตัวตนชายคนนี้ได้ครบทุกมิติ
ทำไม Steven Gerrard ถึงเป็นตำนาน?
เขาเป็นสัญลักษณ์ของลิเวอร์พูล, เป็นกัปตันทีมมายาวนาน, นำทีมคว้าแชมป์ UCL 2005 ด้วยการแสดงปาฏิหาริย์ในการคัมแบ็ค, และปฏิเสธการย้ายไปทีมคู่แข่ง แม้จะได้รับข้อเสนอที่สูงกว่า
ตำแหน่งหลักของ Gerrard คืออะไร?
เขาคือกองกลางตัวกลางแบบ Box-to-Box Midfielder ที่เล่นได้ดีทั้งเกมรับและเกมรุก สามารถยิงประตูจากแถวสองและมีลูกจ่ายที่แม่นยำ